ผื่นแพ้เกิดขึ้นได้เพราะระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อสารที่มองว่าเป็นอันตราย (แม้ว่าสารเหล่านั้นอาจไม่เป็นอันตรายจริง ๆ) ทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนัง ส่งผลให้เกิด ผื่นแดง คัน บวม หรือเป็นตุ่มน้ำ ได้ครับ
สาเหตุที่ทำให้เราแพ้และเกิดผื่น
การที่เกิดผื่นเป็นเพราะว่า เกิดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน
- เมื่อร่างกายสัมผัส สารก่อภูมิแพ้ (Allergen) เช่น อาหาร ละอองเกสร ฝุ่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ หรือสารเคมี ระบบภูมิคุ้มกันจะมองว่าสารนั้นเป็นสิ่งแปลกปลอม
- ร่างกายจึงปล่อยสาร ฮิสตามีน (Histamine) และสารอักเสบอื่น ๆ ออกมา ทำให้ เส้นเลือดขยายตัว ผิวหนังบวมแดง และคัน
ประเภทของการแพ้แล้วขึ้นผื่นที่พบได้บ่อย
- ลมพิษ (Urticaria)
- ลักษณะ: ผื่นแดง นูน คัน คล้ายยุงกัด กระจายทั่วร่างกาย
- สาเหตุ: อาหารทะเล ถั่ว ไข่ นม แมลงกัดต่อย ยา ความเครียด อากาศเปลี่ยนแปลง
- ระยะเวลา: หายได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือหลายวัน แต่บางคนเป็น ลมพิษเรื้อรัง
- ผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis)
- ลักษณะ: ผื่นแดง คัน เป็นตุ่มน้ำ หรือแห้งลอก บริเวณที่สัมผัสสารก่อแพ้
- สาเหตุ: น้ำหอม โลหะ (เช่น นิกเกิลจากเครื่องประดับ) สบู่ แชมพู สารเคมีจากน้ำยาทำความสะอาด
- ระยะเวลา: 1-2 วัน หรืออาจนานเป็นสัปดาห์
- ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
- ลักษณะ: ผื่นแดง คัน ผิวแห้งแตกลอก มักพบบริเวณข้อศอก ข้อพับ หรือใบหน้า
- สาเหตุ: เกิดจากกรรมพันธุ์ ร่วมกับสิ่งกระตุ้น เช่น อาหารบางชนิด ฝุ่น อากาศแห้ง
- ระยะเวลา: อาจเป็นเรื้อรังตั้งแต่เด็กและกำเริบเป็นระยะ ๆ
- ผื่นแพ้อาหาร (Food Allergy Rash)
- ลักษณะ: ผื่นแดง คัน ลมพิษ หรือบวมตามใบหน้าและปาก
- สาเหตุ: อาหารที่แพ้ เช่น นม ไข่ ถั่ว แป้งสาลี อาหารทะเล
- อาการรุนแรง: อาจเกิด ภาวะช็อกจากภูมิแพ้ (Anaphylaxis) ได้ ต้องรีบรักษา
- ผื่นแพ้จากยา (Drug Allergy)
- ลักษณะ: ผื่นแดง จุดเล็ก ๆ หรือเป็นปื้น คัน บางรายอาจเกิดตุ่มพอง
- สาเหตุ: ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยากันชัก ยาแก้อักเสบ
- อาการรุนแรง: อาจเกิด ภาวะ SJS/TEN (ผิวหนังลอกเป็นแผลรุนแรง) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
ทำไมบางคนไม่แพ้?
- กรรมพันธุ์ – ถ้าพ่อแม่มีประวัติแพ้ ลูกก็มีโอกาสแพ้มากขึ้น
- ภูมิคุ้มกันไวต่อสารบางชนิด – บางคนมีระบบภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองไวเกินไป
- สภาพแวดล้อม – อากาศแห้ง ฝุ่น ควัน สารเคมี อาจกระตุ้นให้แพ้ได้
- การสัมผัสซ้ำ ๆ – บางครั้งสารที่ไม่เคยแพ้ อาจทำให้เกิดอาการแพ้ในภายหลัง
วิธีป้องกัน
- หลีกเลี่ยงสารก่อแพ้ที่กระตุ้นอาการ
- ใช้ยาแก้แพ้ (Antihistamines) เพื่อลดอาการคันและอักเสบ
- ทาครีมหรือยาสเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการ
- รักษาความชุ่มชื้นของผิว ใช้ครีมบำรุงที่ไม่มีสารก่อแพ้
- ถ้าแพ้อาหารหรือยา ควรพบแพทย์ทันที
สรุป
ผื่นแพ้เกิดจาก การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ไวเกินไป ต่อสารบางอย่าง ทำให้ร่างกายปล่อยสารฮิสตามีน (Histamine) ออกมาทำให้เกิดอาการคัน แดง และอักเสบ การป้องกันคือหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นและดูแลผิวให้แข็งแรงนั่นเองครับ